Run and Gun แผนการเล่นบาสเกตบอลของแชมป์เอ็นบีเอ

ในปัจจุบันแผนการเล่นบาสเกตบอลได้ถูกพัฒนาออกมาหลายรูปแบบ หลายทีมต่างพัฒนาแผนการเล่นบาสเกตบอลที่ไม่เหมือนใคร เพื่อที่จะเอาไว้พิชิตคู่ต่อสู้ แต่มีแผนการเล่นแบบหนึ่งเป็นแผนการบุกที่เปิดกว้างให้สำหรับทุกทีมได้นำไปใช้ เพราะเป็นแผนการเล่นที่นำไปใช้ได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากในการแข่งขัน โดยการรันตีได้จากการใช้แผนนี้ของทีมบอสตัน เซลติกส์ ที่พิชิตแชมป์เอ็นบีเอ 17 สมัย มากที่สุดในลีกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ

รัน แอนด์ กัน คือแผนการเล่นบาสเกตบอลแบบบุก ที่มีความหมายตรงตัวตามคำแปลคือ วิ่งและยิง เป็นแผนการเล่นที่ไม่ได้มีวิธีการปฏิบัติในแบบที่ซับซ้อน เป็นการที่ทีมวิ่งพาบอลขึ้นไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว และจ่ายบอลไปในจุดที่เหมาะสม พร้อมกับขึ้นยิงทันทีไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใกล้หรือไกลก็ตาม ซึ่งในแผนการนี้จะทำให้สมบูรณ์แบบได้จะต้องมีร่างกายที่แข็งแรงและมีความแม่นยำมากกว่าปกติซึ่งเป็นจุดสำคัญที่เป็นหัวใจของแผน เพราะแผนการเล่นบาสเกตบอลแผนนี้เป็นการบุก โดยการทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว ต่างจากแผนการอื่นที่สามารถเดินหรือใช้จังหวะผ่อนเกมส์ให้ช้าลง เพื่อร่างกายจะได้มีเวลาพัก หรือมีจังหวะในการทำแต้มที่สามารถใช้เวลาในการเล็งไปยังปากห่วงได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องฝึกทั้งความเร็วและความแม่นยำ ให้มีความสัมพันธ์กับแผนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้การใช้แผนการเล่นบาสเกตบอล แบบ รัน แอนด์ กัน เมื่อฝึกซ้อมร่างกาย ความแม่นยำและความรวดเร็วให้เป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วจะสามารถทำให้มีผลของคะแนนในเกมส์นั้นสูงขึ้นอีกด้วย

การใช้แผนการเล่นบาสเกตบอลแบบ รัน แอนด์ กัน เป็นที่นิยมกันอย่างมากในปี 1960 และสามารถทำแต้มเฉลี่ยจากแผนการเล่นนนี้ได้ถึง 115 แต้มต่อเกมส์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของการทำแต้มค่าเฉลี่ยของแผนการเล่นนี้  เพราะในปีนั้นทีม บอสตัน เซลติกส์ ทีมบาสในเอ็นบีเอ ได้เลือกใช้แผนการเล่นนี้เพื่อพิชิตทุกทีมในการแข่งขัน และก้าวขึ้นเป็นแชมป์บาสเอ็นบีเอสมัยที่ 11 ในปีนั้น ก่อนที่แชมป์ 5 สมัย อย่างทีมลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส ได้เลือกใช้แผนการเล่น รัน แอนด์ กัน ที่รวดเร็วแข่งแกร่งและดุดันพาทีมเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ของตนเองได้สำเร็จในปี 1980

ในที่สุดแผนการเล่นนนี้ก็กลายเป็นการเล่นที่นิยมแผนหนึ่งในการเป็นหนทางสู่แชมป์เอ็นบีเอ และเมื่อแผน รัน แอนด์ กัน เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย จึงเกิดการคิดแผนที่จะหยุดความดุดันที่น่ากลัวแบบนี้ขึ้นมา โดยเรียกกันว่า แมนทูแมน ซึ่งผู้เล่นจะต้องมีความแข็งแกร่งให้เทียบเท่าผู้เล่นที่ใช้ รัน แอนด์ กัน จึงจะสามารถหยุดแผนของเส้นทางสู่แชมป์ได้ โดยในปี 2003 การใช้แผนการเล่นนี้ได้ถูกหยุดด้วยการปิดแบบแมนทูแมน ทำให้สกอร์ลดลงเฉลี่ยสูง 95 แต้มต่อเกมส์เท่านั้น