‘เดอร์ริค โรส’ จากสูงลงต่ำสู่ปัจจุบันที่เจ๋งกว่า ตอนที่ 2

มาต่อกันที่เรื่องราวของ เดอร์ริค โรส ชายผู้เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นสุดยอดเยี่ยมแห่งการแข่งขันบาสเกตบอลเอ็นบีเอและเป็นนักกีฬาในดวงใจของใครหลาย ๆ คน ในตอนที่ 2 โดยหากยังไม่ได้อ่านบทความในตอนที่ 1 แนะนำให้กลับไปตามอ่านดูก่อน เพื่อให้ทราบถึงจุดเริ่มต้นเรื่องราวของ เดอร์ริค โรส และอุปสรรคที่รบกวนเส้นทางการก้าวไปสู่การเป็นดาวรุ่งของเขา

โชคชะตาพาเส้นทางอาชีพตกต่ำ

หลังจากอาการบาดเจ็บทางร่างกายที่เขาได้รับในช่วงฤดูกาล 2011 ถึง 2012 นั้นในฤดูกาลต่าง ๆ ที่ผ่านมาเขาก็พักฟื้นจนสามารถลงซ้อมและแข่งขันได้ปกติ แต่แล้วเขาก็ต้องพบเจอกับอาการบาดเจ็บอีก เป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนฟอร์มการเล่นของเขามันได้เปลี่ยนไปและกลายเป็นผู้เล่นตัวเลือกในอันดับท้าย ๆ ของทีม

จนกระทั่งจบฤดูกาลที่ 2014 ถึง2015 ชิคาโก้บูลได้ตัดสินใจเทรดโรสออกให้ไปร่วมทีมนิวยอร์ค นิคส์ ซึ่งโรสออกมากล่าวว่า เขาเสียใจอย่างมากเพราะเขารักชิคาโกบูลส์และไม่อยากจากทีมไปจริง ๆ แต่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไปจนมาถึง ช่วงปิดฤดูกาลที่ 2017 ถึง 2018 ด้วยอาการบาดเจ็บและฟอร์มการเล่นที่ตกไปอย่างน่าใจหาย ทำให้เขาเข้าสู่จุดตกต่ำที่สุดในชีวิตเมื่อเขาได้รับสถานะ Unexpected Free Agent และเข้าไปร่วมเล่นกับทีมคีฟแลนด์ได้ไม่นานก็ถูกปล่อยตัวมาร่วมทีมยูทาห์ แจ๊สซึ่งอยู่กับทีมได้สองวันเขาก็ถูกปล่อยตัวอีก และมาสุดท้ายมาลงอยู่ช่วยในทีมมินเนโซตา ทิมเบอร์วูฟส์ ซึ่งเขาได้กลับมาเจอโค้ชเก่าและเพื่อนร่วมทีมสมัยที่เล่นให้กับชิคาโกบูลส์ และเขาก็เริ่มสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง จนหลาย ๆ คนเริ่มออกเสียงว่า เดอร์ริค โรสเขากลับมาแล้วพร้อมเปอร์เซ็นต์การยิงสามคะแนนที่สูงขึ้นกว่าเดิมมาก

ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาจนกลายเป็นที่สุดยอดอีกครั้ง

ในฤดูกาลที่ 2018-2019 แม้จะมีอาการบาดเจ็บคอยรบกวนอยู่บ้าง แต่โรสก็ไม่เคยยอมแพ้ที่จะเฝ้ามองหาโอกาสในการได้แสดงผลงานอีกครั้ง ยังทุ่มเททุกอย่างให้กับการแข่งขันเรื่อยมา จนสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับทีมทิมเบอร์วูฟส์ และแล้วเหตุการณ์สุดประทับใจก็เกิดขึ้น ในเกมที่ทิมเบอร์วูฟส์เปิดบ้านพบกับยูทาห์ แจ๊ส เขาจบเกมนั้นลงด้วยการทำสถิติการทำแต้มสูงสุดในชีวิตการเล่นบาสเอ็นบีเอ ที่ห้าสิบแต้มในเกมนั้น มันเปรียบเสมือนเป็นการปลดล็อคจุดตกต่ำที่เขาผ่านมาทั้งหมดในชีวิต ทั้งแฟนบาสและเพื่อนร่วมอาชีพทั้งหลายต่างชื่นชมและยินดีกับความเป็นนักสู้ของเขา เขาได้หลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติในเหตุการณ์ครั้งนี้ มันบ่งบอกว่าเขานั้นสู้กับมรสุมชีวิตอย่างหนักมาโดยตลอดมาและศรัทธาเป็นอย่างมากในความเชื่อของตัวเอง  

เดอร์ริค โรส เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม และมีสปิริตการเป็นนักกีฬาที่สูงมาก เขาไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรคอุบัติเหตุที่ทำให้ต้องบาดเจ็บในการแข่งขัน ไม่ว่าจะบาดเจ็บสักกี่ครั้ง ต้องรักษาสักกี่ครั้ง ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อคืนฟอร์มการเล่นสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่มีคำว่ายอมแพ้ และจะทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับกีฬาบาสเกตบอลที่เขารักมันจากใจจริง ซึ่งในฤดูกาล 2019 ถึง 2020 เขายังเล่นอยู่ในทีมดีทรอยต์ พิสตันส์ ในวัยสามสิบปี โดยหวังว่าจะได้เห็นเขาสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมและทำให้วงการบาสเกตบอลมีสีสันเป็นที่ตื่นตา ตื่นใจชาวแฟน ๆ บาสเกตบอลตลอดไป