ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนบาสเกตบอลรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ เราเชื่อว่าชื่อของไมเคิล จอร์แดน คงเป็นชื่อที่คอบอลทุกยุคทุกสมัยรู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากนักกีฬาผู้นี้ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดนักบาสเกตบอลเบอร์ 1 ตลอดกาล จนชื่อของเขาได้กลายเป็นตำนานไปเสียแล้ว
ความเป็นมาและชื่อเสียงในวงการบาสเกตบอล
ไมเคิล จอร์แดน หรือ ชื่อเต็ม ไมเคิล เจฟฟรี จอร์แดน เป็นอดีตนักบาสเกตบอลอาชีพในสังกัดทีม Chicago Bulls ด้วยความสูง 198 เซนติเมตร บวกกับความสามารถ พรสวรรค์ และทักษะทำให้เขาเป็นนักบาสที่ฉายแววความโดดเด่นมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้เล่นในทีม Chicago Bulls ความโดดเด่นและลีลาการเล่นของไมเคิล จอร์แดน ที่ทำให้ผู้เล่นคนอื่นเทียบได้ยาก ก็คือความสามารถในการกระโดดสูง และลอยตัวค้างในอากาศได้นาน ประกอบกับลูกชู้ตที่เขาถนัดคือ Fade-away jump shot และการลอยตัวเข้าไปทำคะแนน ไมเคิล จอร์แดน ได้สร้างชื่อไว้ในวงการบาสเกตบอล NBA และวงการบาสเกตบอลระดับโลกมากมาย ด้วยการนำทีม Chicago Bulls คว้าแชมป์ NBA ถึง 6 สมัย และตัวเขาเองยังได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าของ NBA ไปถึง 5 สมัย ไม่เพียงเท่านั้นเขายังได้รับรางวัลที่การันตีความสามารถในวงการบาสเกตบอลเอาไว้อีกมากมายในอดีต ได้แก่ รางวัลผู้เล่นดาวรุ่งแห่งปี การร่วมทีมเป็นผู้เล่น All star และรางวัลผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นนักบาสเกตบอลที่ร่วมทีมชาติสหรัฐอเมริกา นำทีมคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้ถึง 2 สมัย
หนึ่งในนักกีฬาที่รวยที่สุดในโลก
ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากไมเคิล จอร์แดนจะได้รับการยกย่อง และได้รับการยอมรับให้เป็นสุดยอดนักบาสตลอดกาลแล้ว ในปี 2015 ไมเคิล จอร์แดน ยังติดโผอยู่ในรายชื่อนักกีฬามหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกคนหนึ่ง ที่มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย เพราะถึงแม้เขาจะเลิกเล่นบาสเกตบอลอาชีพไปแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นอดีตนักกีฬาอาชีพที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ด้วยการเป็นผู้บริหารทีมบาสเกตบอลชาร์ลอตต์ บอบแคตส์ ซึ่งมีมูลค่าของทีมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เขามีรายได้มากกว่าสมัยที่เขาเป็นผู้เล่นในลีกบาส NBA เสียอีก นี่เองที่ทำให้ไมเคิล จอร์แดนได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดนักบาสตลอดกาล
สำหรับแฟน ๆ บาสเกตบอลก็คงจะต้องติดตามกันต่อไป ว่านักบาสคนไหนที่จะมาเทียบเท่า หรือมาแทนที่ไมเคิล จอร์แดนได้ หรือแม้แต่เลอบรอน เจมส์ที่มักจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับไมเคิล จอร์แดนกันอยู่บ่อย ๆ ก็คงต้องรอดูกันต่อไปยาว ๆ มาสุดท้ายเขาจะเทียบเท่าไมเคิล จอร์แดนได้จริงหรือไม่