โลโก้เอ็นบีเอ โฉมหน้าใหม่ของการขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งลีกบาสอเมริกัน

ตอนที่ The National Basketball Association หรือ NBA ก่อตั้งขึ้นในปี 1946 พวกเขาไม่ได้ใช้ชื่อ NBA ตั้งแต่แรก เพราะเดิมพวกเขาใช้ชื่อ The Basketball Association of American หรือ BAA โดยมีทีมเข้ารวมแข่งขัน 11 ซึ่งตอนนั้นอเมริกาก็มีลีกบาสเกตบอลในชื่อ the National Basketball League หรือ ABL อยู่ หลังก่อตั้ง BAA ได้ 3 ปี พวกเขาก็คุยกับทาง ABL และตัดสินใจรวมตัวเป็นการแข่งขันเดียวและใช้ชื่อ NBA ในปี 1949 เป็นต้นมา

ทุกอย่างน่าจะไปด้วยดีถ้าไม่ใช่เพราะการมีอีกสมาคมบาสเกตบอลก่อตั้งขึ้น American Basketball Association หรือ ABA ลุกขึ้นมาจัดลีกของตัวเองในปี 1967 แถมยังทำได้ดีเกินหน้าเกินตาด้วยกฏกติกาใหม่ที่ทำให้เกมทั้งวูบวาบ รวดเร็ว และเข้มข้นขึ้นด้วยการมีช็อตคล็อก 30 วินาทีและกฏการยิง 3 คะแนน ลีกคู่แข่งนี้เองที่ทำให้ NBA ที่เกิดก่อนต้องติดแหง่กกับการไม่ได้เหนือกว่าลีกมาหลัง

สองปีหลังการตั้งลีกของ ABA พวกเขากล้าแย่งชิงทั้งผู้ชม แฟนบาสเกตบอล รวมถึงมูลค่าการตลาดหลายล้านดอลลาร์จาก NBA และนั่นทำให้ NBA อยู่เฉยไม่ได้ พวกเขาย้อนมามองดูตัวเองแล้วหาคำตอบจนพบว่า ถ้ายังไม่กลายเป็นลีกบาสเกตบอลอันดับหนึ่งเหมือนอย่างที่ MLB ครองความเป็นลีกเบอร์ 1 ของเบสบอล พวกเขาต้องแพ้ให้ ABA แน่นอน และตอนนั้นเองที่ NBA คิดว่าพวกเขาต้องมีอะไรที่เด่นกว่า ผู้คนจะต้องนึกถึงพวกเขาก่อนหากพูดเรื่องบาสเกตบอล–คำตอบที่ได้คือโลโก้การแข่งขันที่จำง่าย น่าสนใจและเอาไปใส่ในสินค้าหลากหลายชนิดได้

ทีมงาน NBA พุ่งตรงไปที่บริษัทออกแบบ Siegel+Gale ซึ่งเป็นคนออกแบบ MLB โลโก้ พวกเขาบุกเข้าไปถึงตัว Alan Siegel ผู้ก่อตั้งเพื่อขอให้ทำโลโก้ที่ดึงดูดไม่แพ้ของวงการเบสบอลให้หน่อย

เพื่อค้นหาแรงบันดาลใจในการออกแบบ อลัน ซีเกลนั่งดูรูปภาพจากรูปถ่ายที่ NBA ขนมาให้และไล่เปิดดูรูปภาพในแมกกาซีนจะไปสะดุดตาเข้ากับรูปของเจอร์รี่ เวสต์ มันได้ทั้งองค์ประกอบในการเคลื่อนไหว เป็นรูปแนวตั้งแบบที่ต้องการ และถ่ายทอดอารมณ์ของเกม โดยไม่รอช้าซีเกลสั่งทีมงานจัดการเอารูปลักษณ์ของเวสต์มาดัดแปลงเป็นโลโก้ทันที

มันประกอบด้วยสีแดง น้ำเงินและขาวแบบครึ่งต่อครึ่งเหมือนจะล้อโลโก้ของ MLB ไปในตัว จากนั้นก็เพื่อคำว่า NBA ลงไปที่พื้นที่ว่างด้านล่างของฝั่งสีน้ำเงิน ซึ่งการออกแบบของ Siegel+Gale ไม่มีอะไรที่ผิดพลาดเลย หลังจากถูกนำมาใช้ มันกลายเป็นโลโก้ที่ทรงพลังที่สุดอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ ABA พยายามต่อสู้กับโฉมใหม่ของ NBA ที่นำทัพโดยโลโก้สุดไฉไล ที่สุดพวกเขาก็ยอมแพ้ในปี 1976 โดยยอมกลายเป็นส่วนหนึ่งของ NBA แต่ก็ฝากชื่อเอาไว้ในฐานะผู้ให้กำเนิดการแข่งขัน Slam Dunk Contest และศึก All-Star Game ซึ่ง NBA ก็ยังคงสานต่อทั้งสองอย่างนี้เรื่อยมา

เมื่อโลโก้ใหม่ที่จับเอาเจอร์รี่ เวสต์มาเป็นต้นแบบกลายสภาพเป็นสัญลักษณ์ที่ทรงพลังและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง NBA ก็สามารถขายทุกอย่างที่โลโก้ใหม่สามารถไปอยู่ร่วมได้ อะไรก็ตามที่มีสัญลักษณ์ NBA จะบ่งบอกถึงคุณภาพของสินค้า ความนำสมัย รวมไปถึงแฟชั่น นั่นทำให้มูลค่าของตัวโลโก้อย่างเดียวตลอด 48 ปีที่มันถูกออกแบบขึ้นมีการขยับขึ้นราว 3 ล้านเหรียญต่อปี หรือพูดง่าย ๆ ว่าเฉพาะโลโก้ก็มีมูลค่าในตัวมันเอง 147 ล้านเหรียญแล้วในตอนนี้

ประมาณ 2 ปีที่แล้ว NBA มีแนวคิดที่จะปฏิรูปแบรนด์ พวกเขาได้ทดลองที่จะเอาโลโก้สุดคลาสสิคมาปรับปรุงใหม่ โดยใส่ตัวอักษร NBA ขนาดใหญ่ไว้ทางขวามือของรูปดั้งเดิม มันกลายเป็นโลโก้ในแนวนอนที่ NBA คิดว่ามันน่าจะออกมาใช้ได้ และเลือกใช้เป็นโลโก้ประจำฤดูกาล 2017 ทว่าความยอมรับของแฟนบาสเกตบอลดูจะสู้ของเก่าไม่ได้จริง ๆ สุดท้ายพวกเขาก็เลือกใช้งานทั้งสองแบบตามแต่ความเหมาะสม